แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า เป็นอุทธรณ์ ข้อเท็จจริง ต้องห้ามจึงไม่รับ จำเลยเห็นว่า อุทธรณ์ที่ว่า บันทึกข้อตกลงเอกสาร หมาย ล.1 ระหว่างโจทก์และจำเลยมีความหมายว่า โจทก์ไม่ประสงค์ จะเรียกร้องสิ่งใดจากจำเลย จึงเป็นอุทธรณ์เกี่ยวกับการตีความ ถ้อยคำในเอกสารนั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่ง ให้รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 64,66) ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าว ล่วงหน้าจำนวน 6,040 บาท และค่าเสียหายจากการเลิกจ้าง ไม่เป็นธรรม 26,650 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ของต้นเงินแต่ละจำนวนนับแต่วันฟ้อง (วันที่ 23 พฤษภาคม 2537) จนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์ จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ดังกล่าว (อันดับ 57) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 62)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว อุทธรณ์ของจำเลยยกข้อความซึ่งไม่มี อยู่ในเอกสารหมาย ล.1 ขึ้นอ้าง เพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายที่จำเลยอุทธรณ์ว่า ข้อความดังกล่าวแสดงว่าเอกสารหมาย ล.1 เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความที่โจทก์ไม่ประสงค์เรียกร้อง สิ่งใดจากจำเลย เป็นอุทธรณ์ที่บิดเบือนข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ในสำนวน จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 ศาลแรงงานกลางไม่รับอุทธรณ์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง