แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่า อุทธรณ์ของจำเลยเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริง เพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมาย ถือว่าเป็นอุทธรณ์ ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน มาตรา 54 ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยเห็นว่า อุทธรณ์ของจำเลยที่ว่า ตามคำฟ้อง และคำให้การรับกันแล้วว่าโจทก์ลักทรัพย์ของ บริษัทจำเลย แต่ศาลแรงงานกลางกลับวินิจฉัย ว่าทรัพย์ที่เป็นต้นเหตุแห่งคดีนี้มิใช่ทรัพย์ที่จำเลย เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ จึงเป็นคำวินิจฉัยนอกฟ้อง นอกคำให้การ ไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน มาตรา 52 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดรับอุทธรณ์ของจำเลยไว้พิจารณาด้วย
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 57)
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกล่าวหาว่าโจทก์ลักทรัพย์ ของบริษัทจำเลยและมีคำสั่งปลดโจทก์ออกจากงานโดยไม่เป็นธรรม ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลย รับโจทก์กลับเข้าทำงานในตำแหน่งหน้าที่ไม่ต่ำกว่าเดิม และอัตราค่าจ้างไม่น้อยกว่าเดิม กับให้จ่าย ค่าจ้างในระหว่างเวลาที่เลิกจ้างด้วย
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยรับโจทก์ กลับเข้าทำงานต่อไปในตำแหน่งหน้าที่ ไม่ต่ำกว่าเดิม และอัตราค่าจ้างไม่น้อยกว่าเดิม โดยให้นับอายุงานต่อเนื่อง คำขออย่างอื่นของโจทก์ นอกจากนี้ให้ยก
โจทก์และจำเลยต่างอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลาง มีคำสั่งไม่รับเฉพาะอุทธรณ์ของจำเลยดังกล่าว (อันดับ 44,48)
จำเลยยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 53)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว โจทก์บรรยายฟ้องเกี่ยวกับ ทรัพย์ที่จำเลยอ้างว่าเป็นของจำเลยไว้ว่า โจทก์พบพวงกุญแจจำนวน 10 อัน วางอยู่ที่บริเวณ ช่องวางกระติกน้ำโจทก์เห็นว่าพวงกุญแจดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของบริษัทจำเลย จึงได้ เก็บเพื่อนำไปคืนให้กับหัวหน้าของโจทก์ ซึ่งหมายความว่าที่โจทก์ว่าเป็นทรัพย์ของจำเลยนั้น เป็นความเข้าใจของโจทก์ ที่จำเลยอุทธรณ์ในปัญหา ข้อกฎหมายโดยอ้างว่าโจทก์ยอมรับว่าพวงกุญแจ10 อัน เป็นของจำเลยเป็นการกล่าวอ้าง ข้อเท็จจริงไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่โจทก์บรรยายฟ้อง ศาลฎีกาย่อมรับฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติดังที่จำเลยกล่าว อ้างไม่ได้ ข้อกฎหมายตามอุทธรณ์ของจำเลย จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยที่ศาลแรงงานกลางไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยนั้น ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง