แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า จำเลยที่ 2 ครอบครองที่พิพาท ทั้งสองช่วงคือ ก่อนศาลฎีกาพิพากษาและหลังจากศาลฎีกาพิพากษา แล้วนับรวมกันแล้วเกินสิบปีจึงได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครอง เป็นการโต้เถียงเรื่องการนับระยะเวลาว่าสามารถนับติดต่อ กันได้หรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงไม่รับฎีกา จำเลยที่ 2
จำเลยที่ 2 เห็นว่า ฎีกาที่ว่า นับตั้งแต่จำเลยที่ 2ยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ที่ดินพิพาทในคดีก่อนจนถึงปัจจุบันนี้ จำเลยที่ 2 ยังคงครอบครองที่พิพาทตลอดมาเป็นเวลาเกินกว่าสิบปีแล้ว จำเลยที่ 2 ได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทด้วยการครอบครองปรปักษ์หรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 2 ด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น โจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ 1 ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 และบริวารออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 5507 และโฉนดเลขที่ 5524 ตำบลคูบัวเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ในส่วนที่เป็นของเด็กหญิง(นาง) ยุพินชื่นกลมรัก ให้จำเลยที่ 2 ส่งมอบโฉนดที่ดินเลขที่ 5507 และโฉนดเลขที่ 5524 ตำบลคูบัวเหนือ อำเภอเมืองจังหวัดราชบุรีแก่โจทก์เพื่อแบ่งแยก
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 77)
จำเลยที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 80)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า จำเลยที่ 2 ครอบครองที่พิพาททั้งสองช่วง คือ ก่อนศาลฎีกาพิพากษาและหลังจาก ศาลฎีกาพิพากษาแล้ว นับรวมกันแล้วเกินสิบปีจึงได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองเห็นว่า จำเลยที่ 2 ฎีกาโต้เถียงเรื่องการนับ ระยะเวลาว่าสามารถนับติดต่อกันได้หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ให้รับฎีกาจำเลยที่ 2 ไว้พิจารณา