แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า คดีนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ จำเลยจึงไม่ใช่ผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวอันที่จะต้องพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดอีกต่อไป ดังนั้นโจทก์จึงไม่อาจจะอายัดทรัพย์สินของจำเลยที่ได้ขออายัดไว้ต่อไปได้ ทั้งนี้หากจำเลยได้รับทรัพย์สินคืนไป จำเลยอาจยักย้ายทรัพย์สินไปให้พ้นเสียจากอำนาจศาล เพื่อมิให้โจทก์หรือเจ้าหนี้อื่นได้รับชำระหนี้ หากโจทก์ชนะคดีในที่สุดแล้วก็ไม่อาจที่จะทำการยึดหรืออายัดทรัพย์สินของจำเลยได้อีก โจทก์ได้ยื่นฎีกา คดีมีทางชนะ โปรดอนุญาตให้คุ้มครองทรัพย์สินของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนศาลฎีกาพิพากษา
หมายเหตุ จำเลยแถลงคัดค้าน (อันดับ 84)
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 14
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 74,73)
คำสั่ง
คำร้องของโจทก์พอแปลได้ว่า โจทก์ขอคุ้มครองประโยชน์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 พิเคราะห์แล้วเห็นเป็นการสมควรจึงให้งดการอายัดทรัพย์สินของจำเลยไว้ระหว่างฎีกา
