แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า คดีนี้ อยู่ระหว่างศาลชั้นต้นนัดฟังคำสั่งศาลฎีกาแต่เนื่องจากจำเลยทั้งสองได้ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามเช็คที่ฟ้องครบถ้วนแล้ว โจทก์จึงไม่ประสงค์จะดำเนินคดีกับจำเลยทั้งสองต่อไปขอถอนฟ้อง โปรดอนุญาต
หมายเหตุ จำเลยทั้งสองแถลงไม่คัดค้าน (อันดับ 95)
คดีทั้งสองสำนวนนี้ โจทก์จำเลยเป็นคู่ความรายเดียวกันโจทก์ฟ้องจำเลยทำนองเดียวกันขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,91 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งให้ประทับฟ้องคดีทั้งสองสำนวนไว้พิจารณาแล้วมีคำสั่งให้รวมพิจารณาพิพากษาคดีทั้งสองสำนวนเข้าด้วยกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 รวม9 กระทง ปรับจำเลยที่ 1 กระทงละ 10,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2กระทงละ 20 วัน รวมจำเลยที่ 1 ปรับ 90,000 บาท จำเลยที่ 2 จำคุก6 เดือน ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับ (อันดับ 77)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับฎีกาศาลฎีกาทำคำสั่งคำร้องเสร็จแล้ว ส่งไปศาลชั้นต้นเพื่ออ่านแต่ก่อนถึงวันที่ศาลชั้นต้นนัดฟังคำสั่ง โจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าว(อันดับ 95) ศาลชั้นต้นจึงสั่งให้ส่งคำร้องไปยังศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่งต่อไป
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลชั้นต้นยังไม่ได้อ่านคำสั่งศาลฎีกาที่ว่าจะให้รับฎีกาของจำเลยหรือไม่ จึงถือได้ว่าคดียังไม่ถึงที่สุดเมื่อโจทก์ขอถอนฟ้องสิทธินำคดีมาฟ้องจึงเป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) ให้จำหน่ายคดีโจทก์จากสารบบความ