คำสั่งคำร้องที่ 175/2530

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลภาษีอากรกลางที่ไม่อนุญาตให้ฟ้องคดีอย่างคนอนาถา ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง พร้อมกับยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาศาลภาษีอากรกลางไต่สวนคำร้องแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าบริษัทโจทก์มีที่ดินอยู่ 4 แปลง ติดจำนอง เป็นเงิน8 ล้านบาท และมีเครื่องจักรติดจำนองอยู่อีก 4 ล้านบาทต้องถือว่าโจทก์ยังพอมีเงินเสียค่าธรรมเนียมศาลได้ มิได้ยากจนถึงขนาดไม่สามารถเสียค่าธรรมเนียมศาลแต่อย่างใด จึงให้ยกคำร้องของ โจทก์ หากโจทก์ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปให้นำเงินค่าธรรมเนียมมาเสียภาษีในวันที่ 27 มกราคม 2530โจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลภาษีอากรกลางที่ไม่อนุญาตให้ฟ้องคดีอย่างคนอนาถาว่า ทรัพย์สินดังกล่าวติดจำนองอยู่ทั้งอาคารโรงงานและเครื่องจักรก็ถูกไฟไหม้เสียหายมากกว่าครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินทั้งหมดและไม่สามารถไถ่ถอนจำนองได้จึงเท่ากับโจทก์ไม่มีทรัพย์สินเลยเพราะอาจถูกบังคับจำนองได้ในชั้นไต่สวนคำร้องโจทก์นำสืบได้ว่าบริษัทโจทก์ถูกฟ้องล้มละลายศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดโดยมีเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับ ชำระหนี้รวม 22 ราย เป็นเงิน 30 ล้านบาท หากเจ้าหนี้จำนองบังคับจำนองชำระหนี้แล้วถ้ามีเงินเหลือก็ต้องเฉลี่ยชำระแก่เจ้าหนี้ในคดีล้มละลายดังกล่าว และคดีที่โจทก์ฟ้องนี้เป็นคดีมีทุนทรัพย์ซึ่งต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลแต่ทรัพย์สินในกองทรัพย์สินคดีล้มละลายมีราคาต่ำกว่าจำนวนหนี้มาก จึงขออนุญาตให้โจทก์ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ทั้งนี้โจทก์ ได้ชำระค่าคำร้องมา 200 บาท จำเลยแถลงคัดค้าน

ศาลฎีกาสั่งว่า “พิเคราะห์แล้ว ตามทางไต่สวนข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่า โจทก์ยากจนถึงกับไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมศาลได้ที่ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ฟ้องคดีอย่างคนอนาถาชอบแล้วให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์ หากโจทก์ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปก็ให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระต่อศาลภาษีอากรกลางภายในกำหนด 10 วัน นับแต่วันทราบคำสั่งนี้

อนึ่ง คำร้องอุทธรณ์คำสั่งในกรณีเช่นนี้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล จึงให้คืนค่าคำร้อง 200 บาทแก่โจทก์”

Share