คำสั่งคำร้องที่ 1739/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 จึงไม่รับ
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยในปัญหาว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายจึงไม่มีอำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบและศีลธรรมอันดีของประชาชน และปัญหาว่า การกระทำของจำเลยที่ออกเช็คแต่มิได้เป็นผู้เขียนวันที่ลงในเช็คด้วยตนเอง ทำให้ไม่มีวันที่ที่กระทำความผิดนั้นไม่เข้าองค์ประกอบความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2497 มาตรา 3 จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ทนายโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 80)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3จำคุกจำเลย 1 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497มาตรา 3 จำคุก 1 ปี ข้อนำสืบของจำเลยให้ความรู้แก่ศาลเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลย 8 เดือน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 75)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 40)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาของจำเลยที่ว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คไม่ใช่ผู้เสียหายจึงไม่มีอำนาจฟ้อง และเช็คของจำเลยที่ออกมิได้ลงวันที่ในเช็คด้วยตนเองจึงไม่มีวันที่กระทำความผิดไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้น เป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์รับฟังมาว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คเป็นผู้เสียหาย และเช็คลงวันที่สั่งจ่าย จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share