แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า เป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ข้อกฎหมาย จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 ไม่รับฎีกาโจทก์
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าแม้โจทก์จะได้คัดค้านว่าจำเลยทั้งสองตรวจค้นบ้านเลขที่ 916โดยปรากฏพิรุธในเอกสารหมาย ล.2 และ ล.3 แต่ศาลชั้นต้นกลับฟังข้อเท็จจริงตามเอกสารหมาย ล.2 และ ล.3 โดยมิได้มีถ้อยคำสำนวนสนับสนุนแต่อย่างใด โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยทั้งสองได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 73แผ่นที่ 4 แผ่นที่ 5)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83,84,90,91,157,295,309,362,365
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 69)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 71)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลล่างทั้งสองต่างวินิจฉัยว่าจำเลยทั้งสองมิได้กระทำความผิดตามฟ้อง เป็นการพิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาโต้แย้งคัดค้านดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลล่าง เป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกานั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง