คำสั่งคำร้องที่ 1706/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220จึงไม่รับฎีกาโจทก์
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นปัญหาข้อกฎหมายคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ยกอุทธรณ์โจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง จึงไม่ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาด้วย
หมายเหตุ จำเลยทั้งสองแถลงคัดค้าน (อันดับ 38)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ที่ 2 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 334,335,362,364,365 ประกอบด้วยมาตรา 83 และมาตรา 91ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า คดีโจทก์ไม่มีมูลพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 36)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 37)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ที่โจทก์ฎีกาว่าศาลอุทธรณ์รับฟังข้อเท็จจริงตามเอกสารหมาย ล.4 โดยไม่นำเอกสารหมาย จ.2 ขึ้นวินิจฉัยด้วยเป็นการฟังข้อเท็จจริงตรงข้ามหรือขัดกับพยานหลักฐานในสำนวน และจำเลยมีเจตนาทุจริตกับจำเลยเข้าไปรบกวนการครอบครองห้องชุดของโจทก์ นั้น เป็นฎีกาคัดค้านดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานและโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ส่วนที่โจทก์ฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์ไม่ได้วินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ที่ว่ามาตรวัดน้ำประปาที่จำเลยถอดเอาไปเป็นทรัพย์สินของโจทก์หรือไม่ขอศาลฎีกาวินิจฉัยให้ด้วย ซึ่งเป็นการโต้แย้งว่า ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยให้ครบในประเด็นที่อุทธรณ์ อันเป็นปัญหาข้อกฎหมาย แต่ก็เป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share