คำสั่งคำร้องที่ 1690/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาข้อ 5 ของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 จึงไม่รับ จำเลยเห็นว่า จำเลยฎีกาในปัญหาเรื่องที่เกี่ยวกับ การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิจารณาโดยไม่ยึดหลัก กฎหมายที่เกี่ยวกับวิธีพิจารณาตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494 ฎีกาของจำเลยจึงเป็นปัญหาข้อกฎหมาย และแม้จะมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วก็ตาม ก็เป็นปัญหาอันควรสู่ศาลสูงสุด โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 52) ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 รวม 3 กระทง และมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(4)(8) ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 วรรคสาม อีก 1 กระทง ให้เรียงกระทงลงโทษ รวม 4 กระทง ขณะจำเลยกระทำผิดมีอายุไม่เกิน 17 ปี จึงลดมาตราส่วนโทษ ให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 ฐานรับของโจร ให้จำคุกกระทงละ 1 ปี ฐานลักทรัพย์ ให้จำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกฐานรับของโจรกระทงละ 6 เดือน รวมสามกระทง จำคุก 18 เดือน ฐานลักทรัพย์ จำคุก 1 ปี รวมโทษจำคุก 1 ปี 18 เดือน ให้จำเลยคืนหรือชดใช้ราคากระปุก ออมสินจำนวน 25 บาทแก่ผู้เสียหายที่ 3 ด้วย คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยกเสีย ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานรับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคแรกกระทงเดียว จำคุก 1 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือนเมื่อรวมกับโทษฐานลักทรัพย์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นจำคุก 1 ปี 6 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 44) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 52)

คำสั่ง ปัญหาตามฎีกาของจำเลยข้อ 5 ที่ว่า ขณะกระทำความผิดจำเลยมีอายุ 15 ปี 6 เดือน ศาลจะต้องใช้กฎหมายเกี่ยวกับเด็ก และเยาวชนและลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับ ความสงบเรียบร้อย จึงให้รับฎีกาข้อ 5 ของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป

Share