คำสั่งคำร้องที่ 1672-1673/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า คดีนี้โจทก์จำเลยตกลงกันได้โดยจำเลยยอมชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามฟ้องโจทก์ไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดีต่อไปจึงขอถอนฟ้อง โปรดอนุญาต
หมายเหตุ จำเลยยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
คดีสองสำนวนนี้ โจทก์และจำเลยเป็นคู่ความเดียวกัน โจทก์ทั้งสองสำนวนต่างฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูลไว้พิจารณาศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3(1)(2)และ 3 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 เรียงกระทงลงโทษจำคุกกระทงละ 2 เดือน รวมจำคุก 10 เดือน คำให้การรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก5 เดือน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 64)
จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง (อันดับ 65)
ศาลฎีกาทำคำสั่งคำร้องเสร็จ และส่งไปยังศาลชั้นต้นเพื่ออ่านแล้ว (อันดับ 86)
ศาลชั้นต้นนัดฟังคำสั่งของศาลฎีกาในวันที่ 18 ธันวาคม 2530(อันดับ 88)
โจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าวโดยทนายโจทก์ซึ่งมีอำนาจถอนฟ้องเป็นผู้ลงชื่อในคำร้อง ศาลชั้นต้นเรียกจำเลยมาสอบถาม จำเลยแถลงไม่ค้านที่โจทก์ขอถอนฟ้อง (อันดับ 92)
ศาลชั้นต้นยกเลิกวันนัดฟังคำสั่งของศาลฎีกาตามที่ได้นัดไว้และส่งสำนวนคืนมาศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่งคำร้องดังกล่าวพร้อมกับส่งคำสั่งคำร้องของ ศาลฎีกาคืนมาด้วย

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าคดีนี้เป็นคดีความผิดต่อส่วนตัวโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง ซึ่งจำเลยไม่ค้าน อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง จำหน่ายคดี

Share