คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1246/2504

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเช่าห้องของโจทก์ แล้วเช่าที่ดินของโจทก์ที่ต่อห้องออกไปและปลูกเป็นห้องส้วมห้องน้ำ และเจาะฝาห้องน้ำเป็นช่องให้อากาศและแสงสว่างเข้า เป็นการกระทำสำหรับการอยู่อาศัยนั่นเอง เป็นการใช้ห้องเช่าตามประเพณีนิยมปกติ และฝาห้องน้ำที่เจาะนี้เป็นของจำเลยทำขึ้นไม่ใช่ทรัพย์สินที่เช่า เมื่อไม่ต้องการใช้จะรื้อเสียก็ได้ หาใช่ไม่สงวนทรัพย์ที่เช่าไม่

ย่อยาว

ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยเช่าบ้านของโจทก์ซึ่งเป็นห้องแถวเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ต่อมาจำเลยเช่าที่ดินของโจทก์ที่อยู่ติดต่อห้องเช่าทำเป็นห้องส้วมและห้องน้ำ โดยจำเลยปลูกเอง แล้วจำเลยเจาะฝาห้องน้ำนั้นเป็นช่องให้อากาศและแสงสว่างเข้า ช่องนี้มีขนาดพอที่คนลอดออกไปยังที่วางของโจทก์และเดินไปได้ถึงบ้านโจทก์ มีปัญหาว่า จำเลยไม่ใช้ห้องเช่าตามประเพณีนิยมปกติหรือไม่สงวนทรัพย์สินที่เช่าเสมอกับที่วิญญูชนจะพึงสงวนทรัพย์สินของตนเองหรือไม่
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าไม่อยู่ในลักษณะที่จะหาว่าจำเลยไม่ใช้ห้องเช่าตามประเพณีนิยมปกติหรือไม่ใช้ห้องเช่าเสมอวิญญูชนจะพึงสงวนทรัพย์สินของตน
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าช่องที่เจาะนี้มีขนาดพอที่คนลอดเข้าออกไปยังบ้านโจทก์ได้ เป็นเหตุนำภยันตรายมาสู่โจทก์ ขัดกับความประสงค์ของโจทก์ เรียกไม่ได้ว่าจำเลยใช้ห้องเข่าตามประเพณีนิยมเสมอกับวิญญูชนพึงสงวนทรัพย์สินของตนเอง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องและจำเลยก็รับว่าเช่าอยู่อาศัย เป็นการใช้ห้องเช่าตามประเพณีนิยมปกติและตามข้อสัญญาแล้ว การเจาะฝาห้องน้ำเป็นช่องอากาศและแสงสว่างก็เป็นการกระทำสำหรับการอยู่อาศัยนั่นเอง ที่ว่าคนอาจลอดเข้าออกเป็นภยันตรายมาสู่โจทก์ได้นั้น ถ้าจะมีก็เป็นการกระทำของคน ไมใช่จำเลยเจาะช่องเพื่อเป็นทางเข้าออกไปกระทำผิด จะว่าใช้ห้องเช่าผิดประเพณีนิยมหรือผิดสัญญาไม่ได้ ส่วนข้อที่ว่าไม่สงวนทรัพย์สินที่เช่า ฝาห้องน้ำที่เจาะนี้ก็เป็นของจำเลยทำขึ้น ไม่ใช่ทรัพย์ที่เช่า เมื่อไม่ต้องการใช้จะรือ้เสียก็ได้

Share