คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 549-550/2489

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายสมคบกับสามีไปฉุดภรรยา ซึ่งเป็นบุตร์สาวจำเลย ดังนี้การที่สามีมีอำนาจที่จะฉุดภรรยาไปจากบิดานั้น หาทำให้ผู้ตายมีอำนาจฉุดด้วยไม่ ในกรณีเช่นนี้ บิดาของหญิงนั้น ย่อมมีสิทธิทำการป้องกันได้
ในกรณีที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยหนักขึ้นเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยไม่มีความผิด ก็พิพากษายกฟ้องได้

ย่อยาว

คดีได้ความว่า นายเทือง,และนายทิม สามีนางบุญมาบุตร์สาวจำเลย ซึ่งหย่าขาดจากกันแล้ว แต่ยังมิได้จดทะเบียนการหย่า ได้สมคบกันฉุดคร่านางบุญมาไป ทั้งนี้โดยนายเทืองและนายทิมมีอาวุธ ฉุดแขนนางบุญมาคนละข้าง จำเลยตามทัน จึงใช้อาวุธปืนยิงถูกนายเทองถึงแก่ความตาย อัยยการและนางริ้วมารดาผู้ตาย ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย สำหรับตัวนายพิมอาจมีข้อแก้ตัวทางอาญาในการฉุดคร่านางบุญมา เพราะนางบุญมาเป็นภรรยาของตน แต่นายเทืองผู้ตายจะอาศัยข้อแก้ตัวของนายทิมมาอ้างหาได้ไม่ การกระทำของจำเลยต่อนายเทืองจึงเป็นการป้องกันเกียรติยศชื่อเสียง แต่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุ พิพากษาแก้ให้ลดโทษเหลือจำคุก ๕ ปี
อัยยการและนางริ้วโจทก์ฎีกา ศาลฎีกาคงฟังข้อเท็จจริงเป็นยุตติกล่าวแล้ว ปัญหามีว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตามกฎหมายสถานใดเพียงไรหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า นายเทืองผู้ตายบังอาจฉุดคร่าลูกสาวของจำเลย แม้จะมีนายทิมสามีนางบุญมาเข้าฉุดด้วยซึ่งหากว่า นายทิมจะไม่มีความผิดก็เป็นเรื่องฉะเพาะตัว ไม่ใช่สามีมีอำนาจทำแก่ภรรยาของตนได้ คนอื่นจะมีอำนาจทำแก่ภรรยาเขาได้ด้วยหาได้ไม่ โดยเหตุนี้จำเลยจึงมีสิทธิที่จะป้องกันเกียรติยศชื่อเสียงของตนซึ่งสำหรับคดีนี้ ศาลฎีกาเห็นว่า เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุแม้จำเลยมิได้ฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็ย่อมมีอำนาจปล่อยตัวได้พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องโจทก์

Share