แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ฎีกาจำเลยซึ่งโต้เถียงว่า จำเลยไม่ได้เปลี่ยนแปลงสภาพที่เช่าจากการทำนามาเป็นสวนไม้ดอก การเช่าที่ดินเพื่อการทำนาของจำเลยจึงยังไม่สิ้นสภาพลงย่อมได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมฯนั้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ย่อยาว
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้ขับไล่จำเลยที่ 1 และบริวารออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 5188, 6692, 6693, 6694 ตำบลทวีวัฒนา (บางพรม)อำเภอตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ให้จำเลยที่ 1 ย้ายและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างจากที่ดินตามฟ้อง และให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าเสียหายโจทก์ทั้งสี่ในอัตราเดือนละ 1,500 บาท นับแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2531จนกว่าจำเลยที่ 1 จะส่งมอบที่ดินให้โจทก์ทั้งสี่
จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248ซึ่งแก้ไขตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2534 ไม่รับ
จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องว่า ฎีกาของจำเลยที่ 1 เป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า ต้นกล้วยไม้แวนด้า ต้นรัก เป็นพืชไร่หรือไม่ ขอให้มีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 1
ศาลฎีกามีคำสั่งว่า “พิเคราะห์แล้ว คดีนี้เป็นคดีฟ้องขับไล่ออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสอง จำเลยที่ 1 ฎีกาโต้เถียงว่าไม่ได้เปลี่ยนแปลงสภาพที่เช่าจากการทำนามาเป็นสวนไม้ดอกการเช่าที่ดินเพื่อการทำนาของจำเลยที่ 1 จึงยังไม่สิ้นสภาพลงย่อมได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1 ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง”