แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 3 ฎีกา เชื่อมั่นว่าศาลสูงต้องเปลี่ยนแปลงคำสั่งศาลล่าง ให้โอกาสจำเลยที่ 3 ยื่นคำให้การต่อสู้คดี และจะต้องชนะคดีในที่สุด โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 173)
สืบเนื่องจากจำเลยที่ 1 ถึงที่ 6 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 6 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาแล้วพิจารณาคดีไปฝ่ายเดียวจนเสร็จการพิจารณาและนัดฟังคำพิพากษา ก่อนวันนัดฟังคำพิพากษาจำเลยที่ 3ยื่นคำร้องต่อศาลว่า การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่จำเลยที่ 3 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยที่ 3 มิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การขอให้ไต่สวนคำร้องและมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยที่ 3 ยื่นคำให้การในวันนัดอ่านคำพิพากษา ศาลชั้นต้นงดการอ่านคำพิพากษา
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งเจ็ดร่วมกันชำระเงินจำนวน3,200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละสิบห้าต่อปี นับแต่วันที่ 7 เมษายน 2522 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์หากไม่ชำระ ก็ให้ยึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดชำระหนี้โจทก์ ถ้าได้เงินไม่พอ ก็ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งเจ็ดชำระหนี้โจทก์จนครบ ฯลฯ
จำเลยที่ 3 อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์จำเลยที่ 3
จำเลยที่ 3 ฎีกา และยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 160,167)
จำเลยที่ 3 เคยยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกามาแล้วครั้งหนึ่ง ศาลฎีกามีคำสั่งว่า พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าไม่ควรให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกา ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่าไม่มีเหตุอันสมควรที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
