คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3666/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คู่ความแถลงร่วมกันขอสละประเด็นข้อต่อสู้ทั้งหมด ขอให้ศาลวินิจฉัยเพียงประเด็นฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ ส่วนค่าเสียหายยอมรับกัน แต่เมื่อคดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยในฐานะผู้รับประกันภัยค้ำจุนรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัย ไม่ได้ฟ้องให้รับผิดในฐานะผู้ทำละเมิด จำเลยจะยกอายุความเรื่องละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 มาปฏิเสธความรับผิดไม่ได้ ปัญหาว่าคดีโจทก์ขาดอายุความเรียกค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 882 วรรคแรกหรือไม่ ไม่เป็นประเด็นแห่งคดีที่จะวินิจฉัย และต้องฟังว่าคดีของโจทก์ยังไม่ขาดอายุความ ดังนี้จำเลยจึงต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามที่แถลงรับกันไว้
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามกรมธรรม์ประกันภัย จำเลยไม่ใช่ผู้ทำละเมิดหรือต้องร่วมรับผิดกับผู้ทำละเมิด โจทก์จะขอให้จำเลยเสียดอกเบี้ยนับแต่วันละเมิดไม่ได้ ทั้งตามฟ้องไม่ปรากฏวันผิดนัดแน่นอน โจทก์จึงควรได้ดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องไปเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์โดยสาร โจทก์ที่ ๒ เป็นมารดานายสมศักดิ์ โจทก์ที่ ๓ เป็นบิดานายวิวัฒน์ จำเลยได้รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์บรรทุกไว้จากนายวิเชษฐ นายประเทืองลูกจ้างของนายวิเชษฐได้ขับรถยนต์บรรทุกคันดังกล่าวด้วยความประมาท ชนกับรถยนต์โดยสารที่โจทก์ที่ ๑ ขับ เป็นเหตุให้โจทก์ที่ ๑ ได้รับบาดเจ็บ นายสมศักดิ์และนายวิวัฒน์ซึ่งนั่งอยู่ในรถถึงแก่ความตาย ขอให้จำเลยในฐานะผู้รับประกันภัยรถยนต์บรรทุกชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสามคนละ ๓๐,๐๐๐ บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันละเมิดจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า นายประเทืองขับรถด้วยความระมัดระวังโจทก์ที่ ๑ ขับรถด้วยความประมาทจึงชนกัน ค่าเสียหายไม่เท่าฟ้อง โจทก์ฟ้องคดีเกิน ๑ ปี นับแต่วันละเมิดจึงขาดอายุความแล้ว
คู่ความแถลงร่วมกันว่า จำเลยขอสละประเด็นข้อต่อสู้ทั้งหมดคงขอให้ศาลวินิจฉัยประเด็นฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ และโจทก์จำเลยยอมรับกันว่าค่าเสียหายของโจทก์ที่ ๑ เป็นเงิน ๑๕,๐๐๐ บาท โจทก์ที่ ๒ และที่ ๓ คนละ ๓๐,๐๐๐ บาทโจทก์จำเลยแถลงไม่ติดใจสืบพยานต่อไป
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยในฐานะผู้รับประกันภัยค้ำจุนรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัย ไม่ได้ฟ้องให้จำเลยรับผิดในฐานะผู้ทำละเมิด ฉะนั้น จำเลยจะยกอายุความเรื่องละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๔๘ มาปฏิเสธความรับผิดไม่ได้ ปัญหาว่าคดีโจทก์ขาดอายุความเรียกค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๘๒ วรรคแรกหรือไม่ ไม่เป็นประเด็นแห่งคดีที่จะวินิจฉัยและต้องฟังว่าคดีของโจทก์ยังไม่ขาดอายุความ จำเลยจึงต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ทั้งสามตามที่แถลงรับกันไว้ ที่ศาลล่างทั้งสองฟังว่าคดีโจทก์ขาดอายุความและพิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งสาม ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
แต่เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามกรมธรรม์ประกันภัย จำเลยไม่ใช่ผู้ทำละเมิดหรือต้องร่วมรับผิดกับผู้ทำละเมิด โจทก์จะขอให้จำเลยเสียดอกเบี้ยนับแต่วันละเมิดไม่ได้ ทั้งตามฟ้องโจทก์ไม่ปรากฏวันผิดนัดแน่นอนโจทก์จึงควรได้ดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องไปเท่านั้น
พิพากษากลับ ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ที่ ๑ เป็นเงิน ๑๕,๐๐๐ บาทให้แก่โจทก์ที่ ๒ และที่ ๓ คนละ ๓๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระค่าเสียหายให้แก่โจทก์แต่ละคนเสร็จ

Share