คำสั่งคำร้องที่ 1645/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า เนื่องจากโจทก์และจำเลยทั้งสองตกลงกันได้แล้ว โจทก์ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีกับจำเลยทั้งสองอีกต่อไป จึงขอถอนฟ้อง โปรดอนุญาต
หมายเหตุ ทนายจำเลยทั้งสองแถลงท้ายคำร้องไม่คัดค้าน (อันดับ 50)
คดีสืบเนื่องมาจากศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค (พ.ศ. 2497) มาตรา 3 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรม เรียงกระทงลงโทษ ให้ปรับจำเลยที่ 1 กระทงละ 10,000 บาท 4 กระทง เป็นเงิน 40,000 บาท ให้จำคุกจำเลยที่ 2 กระทงละ 3 เดือน 4 กระทง เป็นจำคุก 12 เดือน ข้อนำสืบของจำเลยที่รับว่า เป็นหนี้ตามสัญญาซื้อขายเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา เห็นสมควร ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงปรับจำเลยที่ 1 จำนวน 26,666 บาท และจำคุก จำเลยที่ 2 มีกำหนด 8 เดือน
จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา(อันดับ 45)
จำเลยทั้งสองจึงยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับฎีกาศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งเกินกำหนด 15 วัน จึงไม่รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง (อันดับ 46,47)
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่งขอให้ศาลชั้นต้นส่งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับฎีกาไปยังศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยและมีคำสั่งต่อไป (อันดับ 48) ศาลชั้นต้นจึงส่งสำนวนมายังศาลฎีกา
ศาลฎีกาทำคำสั่งเสร็จแล้ว (คำสั่งที่ 2710/2534) และจัดส่ง ไปให้ศาลชั้นต้นเพื่ออ่านให้คู่ความฟัง ก่อนอ่านคำสั่งศาลฎีกา โจทก์ยื่นคำร้องนี้ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งงดการอ่านคำสั่ง ศาลฎีกา และส่งสำนวน ซองคำสั่ง และคำร้องนี้ไปศาลฎีกาเพื่อ พิจารณา (อันดับ 50,51,52)
ต่อมาศาลฎีกามีคำสั่งในรายงานกระบวนพิจารณาว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย จำเลยยื่นคำร้อง อุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำร้องอุทธรณ์ คำสั่งดังกล่าว อ้างว่ายื่นเกินกำหนด 15 วัน จำเลยยื่นอุทธรณ์ ฉบับวันที่ 23 สิงหาคม 2534 อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น ที่ไม่รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลย ซึ่งจะต้องส่งสำนวน ไปยังศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณาอุทธรณ์ของจำเลย แต่ศาลชั้นต้น ส่งสำนวนมาศาลฎีกาจึงเป็นการไม่ชอบ จึงให้ส่งสำนวนคืนศาลชั้นต้นเพื่อดำเนินการต่อไป
ศาลชั้นต้นจึงส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณา อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองตามคำสั่งศาลฎีกา (อันดับ 52 แผ่นที่ 2)
ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาให้ยกคำสั่ง ศาลชั้นต้นเกี่ยวกับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยทั้งสอง ฉบับดังกล่าว ให้ ศาลชั้นต้นดำเนินการส่งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา ฉบับดังกล่าวไปให้ศาลฎีกาพิจารณาต่อไป (อันดับ 54)
คดีอยู่ระหว่างศาลฎีกาพิจารณาสั่งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสอง (คำร้องที่ 1646/2536)

คำสั่ง
คดีนี้เป็นคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัว และยังไม่ถึงที่สุดโจทก์จะถอนฟ้องเสียเมื่อใดก็ได้ เมื่อโจทก์ถอนฟ้องจำเลยทั้งสองไม่ค้าน สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) ให้จำหน่าย คดีเสียจากสารบบความ

Share