คำสั่งคำร้องที่ 1471/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกาไม่เกิน 200,000 บาท ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง ฎีกาของจำเลยทั้งสองข้อเป็นฎีกาในข้อเท็จจริงจึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาจำเลยที่คัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์ซึ่งไม่อนุญาตให้จำเลยสืบพยานนั้นไม่มีกฎหมายห้ามมิให้ฎีกาแต่อย่างใด ส่วนฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในข้อ ข.1 ที่ว่ารถยนต์จำเลยเสียหลักแล่นส่ายไปมาจึงชนรถโจทก์นั้น เป็นการ กระทำด้วยความประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรค 4 หรือไม่ และข้อ ข.1 ที่ว่า รถยนต์จำเลยเสียหลักลื่นไถล ไปชนรถโจทก์เพราะทับดินเหลว เป็นเหตุสุดวิสัยตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 8 หรือไม่ ล้วนแต่เป็น ปัญหาข้อกฎหมายทั้งสิ้น โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลย ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 123,205 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2531 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่ดอกเบี้ยถึงวันฟ้อง (วันที่ 21 มิถุนายน 2532)ไม่ให้เกิน 4,734 บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 106)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ โดยมิได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษา หรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลชั้นต้น (อันดับ 108)

คำสั่ง
จำเลยไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันมาวางศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ก่อนจึงให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย

Share