คำสั่งคำร้องที่ 1102/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยไม่เกินสองปีศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คดีต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริง จำเลยฎีกาว่าเช็คพิพาทเป็นเช็คค้ำประกันและโต้แย้งดุลพินิจรับฟังพยานหลักฐานของศาล จึงเป็นฎีกาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามจึงไม่รับฎีกาจำเลย
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า การที่ จำเลยได้ให้การใหม่ในชั้นพิจารณาผิดไปจากคำให้การชั้นสอบสวน ถือว่าจำเลยได้คัดค้านหรือปฏิเสธคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนแล้ว โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 91)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 จำคุก10 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน ลดโทษให้หนึ่งในห้าคงจำคุก 8 เดือน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 85)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 91)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ข้อที่จำเลยฎีกาว่าการที่จำเลยได้ให้การใหม่ในชั้นพิจารณาผิดไปจากคำให้การชั้นสอบสวน จะถือว่าจำเลยได้คัดค้านหรือปฏิเสธคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนหรือไม่ นั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมาย แต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาจำเลยนั้น ชอบแล้ว ยกคำร้อง

Share