คำสั่งคำร้องที่ 1609/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง เมื่อทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท จึงต้องห้ามมิให้โจทก์ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248ที่แก้ไขใหม่
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าคำเบิกความของนายประสงค์ ทัศนศิริ และจำเลยเป็นการแก้ไขหรือตัดทอนข้อความในสัญญากู้เงิน รับฟังไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94(ข)โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยใช้เงินจำนวน 60,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยถึงวันฟ้องเป็นเงิน 19,875 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น79,875 บาท กับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละสิบห้าต่อปีในต้นเงิน60,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนถึงวันชำระเสร็จแก่โจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 42)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 44)

คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าคำพยานโจทก์ไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ และฟังว่าสัญญากู้เอกสารหมาย จ.3 เป็นเอกสารปลอม โจทก์ฎีกาว่าพยานจำเลยเบิกความรับฟังไม่ได้ เป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานจึงเป็นฎีกาโต้เถียงข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้องค่าคำร้องเป็นพับ

Share