คำสั่งคำร้องที่ 1608/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า อุทธรณ์ของโจทก์ทุกข้อเป็นอุทธรณ์ในลักษณะข้อกฎหมาย แต่ เป็น การให้รับฟังข้อเท็จจริงที่ฝ่าฝืนกับคำพิพากษา ของศาลแรงงานกลาง เป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมาย ถือว่าเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 54 จึงไม่รับอุทธรณ์ทุกข้อของโจทก์
โจทก์เห็นว่า อุทธรณ์ในประเด็นข้อ 5.1 เป็นปัญหาการปรับบทกฎหมายว่าจำเลยจะต้องรับผิดหรือไม่ จึง เป็นการอุทธรณ์ ในปัญหาข้อกฎหมาย อุทธรณ์ข้อ 5.2 ปัญหา ว่า จำเลยที่ 1 กระทำละเมิดหรือไม่หรือผิดสัญญากับโจทก์หรือไม่เป็นปัญหาปรับบทกฎหมายเป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายเช่นเดียวกัน ส่วนอุทธรณ์ข้อ 5.3 นั้นปัญหาว่าศาลวินิจฉัยข้อเท็จจริงนอกพยานหลักฐานในสำนวนและนอกประเด็นอันไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ก็เป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายและอุทธรณ์ของโจทก์ประการสุดท้ายสำหรับจำเลยที่ 2 นั้นโจทก์อุทธรณ์เพื่อให้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าตามข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางฟังมานั้น จำเลยที่ 2 กระทำละเมิดต่อโจทก์หรือเป็นการประพฤติผิดสัญญาจ้างหรือไม่ ทั้งอุทธรณ์ในปัญหาการตีความคำฟ้อง คำให้การ และระเบียบข้อบังคับของโจทก์ว่าจำเลยจะต้องรับผิดหรือไม่ ล้วนเป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายทั้งสิ้น โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของโจทก์ฉบับลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2535 ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยทั้งสองได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 231)
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินให้โจทก์จำนวน 2,020,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากเงินต้นจำนวนดังกล่าวนับแต่วันฟ้อง(วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2533) จนกว่าจะชำระเสร็จ ให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 2 คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 227)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 229)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่าการที่คณะกรรมการดำเนินการของโจทก์ให้สัตยาบันแก่การกระทำของจำเลยที่ 1 ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 จงใจหรือประมาทเลินเล่อกระทำผิดตามระเบียบของโจทก์ และฟังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับจำเลยที่ 2 ว่า ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ร่วมรู้เห็นกับจำเลยที่ 1ในการที่จะทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินของโจทก์ที่พัทยาโดยฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับหรือมติของคณะกรรมการดังกล่าวจำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดตามฟ้อง อุทธรณ์ของโจทก์ทุกข้อโต้แย้งคำพิพากษาของศาลแรงงานกลาง เพื่อให้ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่น จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 54 ที่ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์นั้น ศาลฎีกาเห็นชอบด้วยในผล ให้ยกคำร้อง

Share