คำสั่งคำร้องที่ 1604/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยทั้งสองได้ยื่นฎีกาไว้ บัดนี้จำเลยทั้งสองชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนแล้ว กรณีไม่มีความจำเป็นที่ศาลฎีกาจะพิจารณาวินิจฉัยคดีอีกต่อไป จึงขอถอนฎีกา โปรดอนุญาต
หมายเหตุ โจทก์แถลงไม่คัดค้าน (อันดับ 79)
กรณีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินและสัญญาจำนอง จำเลยทั้งสองขาดนัดพิจารณาศาลชั้นต้นจึงพิจารณาคดีโจทก์ไปฝ่ายเดียวแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้แก่โจทก์ ต่อมาจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องว่า คำสั่งของศาลที่สั่งว่าจำเลยทั้งสองขาดนัดพิจารณาแล้วนัดฟังคำพิพากษาโดยไม่ให้โอกาสจำเลยทั้งสองนำพยานเข้าสืบตามข้อต่อสู้นั้น เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เพราะถึงแม้ว่าในวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยทั้งสองจะไม่ไปศาลและศาลมีคำสั่งว่าจำเลยทั้งสองขาดนัดพิจารณาก็ตาม ย่อมหมายถึงว่าจำเลยทั้งสองขาดนัดพิจารณาในนัดนั้น โดยไม่มีสิทธิซักค้านพยานโจทก์ที่ได้สืบไปแล้วเท่านั้น หาได้ตัดสิทธิจำเลยทั้งสองที่จะซักค้านพยานโจทก์ปากต่อไป และนำพยานของจำเลยทั้งสองเข้าสืบตามข้อต่อสู้ไม่ ขอให้เพิกถอนคำสั่งนัดฟังคำพิพากษาที่ผิดระเบียบ แล้วยกคดีขึ้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า เมื่อศาลสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาและดำเนินการพิจารณาคดีไปฝ่ายเดียวแล้ว จำเลยไม่มาศาล จึงถือว่าคดีเสร็จการพิจารณา จำเลยไม่มีสิทธินำพยานเข้าสืบ ศาลพิพากษาคดีในวันที่เสร็จการพิจารณานั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา (อันดับ 49)
ศาลฎีกาทำคำพิพากษาเสร็จและส่งไปศาลชั้นต้นเพื่อนัดคู่ความฟังแล้ว ก่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องดังกล่าว(อันดับ 74,83)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้จำเลยทั้งสองถอนฎีกาได้ จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ส่วนค่าขึ้นศาลมีเพียง 200 บาทจึงไม่คืนให้

Share