แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา มีทางชนะคดีหากให้โจทก์บังคับคดีในระหว่างนี้ จำเลยทั้งสองจะได้รับความเสียหาย โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 67 แผ่นที่ 2)
กรณีสืบเนื่องจากโจทก์และจำเลยที่ 1 ที่ 2 ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความว่าจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ตกลงร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ 2,050,000 บาท โดยผ่อนชำระเป็นรายเดือน เดือนละ100,000 บาท หากผิดนัดงวดใดงวดหนึ่งให้ถือว่าผิดนัดทุกงวดยินยอมให้โจทก์บังคับคดีได้ทันที และโจทก์ตกลงจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์บรรทุกจำนวน 83 คัน ให้แก่จำเลยทั้งสอง และส่งมอบทะเบียนให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน นับแต่วันทำสัญญา หากผิดนัดยินยอมให้จำเลยทั้งสองบังคับคดีได้ทันทีโดยให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของโจทก์ ฯลฯ ศาลชั้นต้นได้พิพากษาคดีไปตามยอมแล้วต่อมาโจทก์อ้างว่าจำเลยทั้งสองผิดนัดไม่ชำระเงินให้แก่โจทก์ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำขอของโจทก์ จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีและงดการบังคับคดีไว้ก่อน อ้างเหตุว่าโจทก์ไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ศาลชั้นต้นสอบถามแล้วมีคำสั่งยกคำร้องของจำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 64,63)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าจำเลยที่ 1 หรือจำเลยที่ 2 คนใดคนหนึ่งหรือร่วมกันหาประกันสำหรับจำนวนเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาให้เป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง
