คำสั่งคำร้องที่ 1596/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุกจำเลย2 ปี คดีจึงต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงผิดไปจากถ้อยคำสำนวน โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 96)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4,7,26,76,102,103 จำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุม เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 2 ปีให้ริบกัญชาของกลาง
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 94)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 96)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วคดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนลงโทษจำคุก 2 ปีคดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 การที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่มีประจักษ์พยานมายืนยันว่า จำเลยมีกัญชาไว้เพื่อจำหน่าย เป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ส่วนที่จำเลยฎีกาว่าศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าผู้จับกุมให้ความเมตตาจำเลย ผิดไปจากถ้อยคำในสำนวนนั้น แม้จะเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย แต่ก็เป็นข้อกฎหมายที่ไร้สาระหาทำให้ดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์เปลี่ยนไปไม่ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ยกคำร้อง

Share