แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 2 ยื่นฎีกาโดยผ่านทัณฑสถานหญิง ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกานั้นต้องยื่นต่อศาลชั้นต้นเท่านั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 ในชั้นฎีกาไม่มีกฎหมายให้นำมาตรา 199 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาใช้บังคับเหมือนในชั้นอุทธรณ์ บทบัญญัติที่จะนำมาใช้ได้ในชั้นฎีกามีเพียงมาตรา 200 และ 201 เท่านั้น จำเลยจึงไม่อาจยื่นฎีกาต่อผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงได้ ดังนั้นแม้จำเลยจะยื่นฎีกาต่อผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงภายในกำหนดอายุความฎีกา แต่ฎีกาของจำเลยมาถึงศาลเมื่อล่วงเลยเวลาฎีกาแล้ว จึงไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2จำเลยที่ 2 เห็นว่า ในกรณีของจำเลยนี้ จำเลยฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2529 จำเลยยื่นฎีกาต่อพัศดีเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2529 ซึ่งเรือนจำลงเลขรับฎีกาจำเลยไว้แล้ว ถือว่าเป็นการยื่นฎีกาโดยถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายโปรดพิจารณารับฎีกาของจำเลยไว้เพื่อดำเนินการต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 117)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) ประกอบด้วยมาตรา 83,84 ให้ลงโทษประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง คำรับสารภาพชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้คนละหนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลยทั้งสองคนละตลอดชีวิต สำหรับจำเลยที่ 1 ยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 371 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ,72 ทวิ ฯลฯ ต้องลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักอีกกระทงหนึ่ง จำคุก 3 เดือน เมื่อความผิดกระทงแรกมีโทษจำคุกตลอดชีวิตแล้ว จึงไม่ต้องนำเอาโทษตามความผิดกระทงหลังมารวมเข้าด้วยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3) ฯลฯ
ปรากฏว่าไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นจึงส่งสำนวนมายังศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยที่ 2 ฟังเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2529
จำเลยที่ 2 ยื่นฎีกาลงวันที่ 3 ตุลาคม 2529 โดยผ่านทัณฑสถานหญิง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 114)
จำเลยที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 117)
คำสั่ง
ปรากฏว่าคดีนี้จำเลยมิได้ยื่นอุทธรณ์ แต่ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปศาลอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนคดีถึงที่สุดแล้ว จำเลยจึงไม่มีสิทธิฎีกา ที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาจำเลยนั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ให้ยกคำร้อง