แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 165 วรรคสาม ก่อนศาลประทับฟ้องมิให้ถือว่าจำเลยอยู่ในฐานะจำเลย คดีชั้นไต่สวนมูลฟ้องนั้น เป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์ จำเลยยังมิได้เข้ามาสู่ฐานะเป็นคู่ความไม่มีสิทธิฎีกา จึงไม่รับ
จำเลยที่ 1 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 1 เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายอันควรสู่ศาลฎีกา จึงมีสิทธิฎีกาได้ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 1 ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่โจทก์ฟ้องและแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136,137,326,328,83,91 ฯลฯ
ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องแล้วเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้โดยไม่จำต้องไต่สวนมูลฟ้อง จึงให้งดการไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328และมีคำสั่งหรือคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนมูลฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป แล้วมีคำสั่งหรือคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 123)
จำเลยที่ 1 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 125)
คำสั่ง
ชั้นนี้จำเลยยังไม่มีฐานะเป็นจำเลย จึงไม่มีสิทธิฎีกาเป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับศาล คำสั่งศาลชั้นต้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง