แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การโอนขายหุ้นส่วนโรงสีไม่ใช่เป็นการขายอสังหาริมทรัพย์จึงไม่ต้องทำเป็นหนังสือ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยและนายสีแก้ว ฆังทองได้เข้าหุ้นส่วนประกอบกิจการโรงสี นายสีแก้ว ฆังทองโอนขายหุ้นให้แก่จำเลย ต่อมาได้รื้อย้ายโรงสีไปตั้งประกอบกิจการในที่ดินของจำเลยและมอบให้จำเลยเป็นผู้จัดการ ได้แบ่งผลกำไรเดือนหนึ่งไม่ต่ำกว่า 500 บาทต่อมาเดือน 10 พ.ศ. 2497 จำเลยปฏิเสธไม่ยอมแบ่งผลกำไรให้โจทก์ โจทก์จึงมาฟ้องให้ศาลพิพากษาว่า โจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนกันโดยถือหุ้นเท่า ๆ กัน ให้เลิกกิจการแล้วแบ่งทรัพย์ให้โจทก์กับให้จำเลยแบ่งผลกำไรให้โจทก์ 5,000 บาทด้วย
จำเลยให้การว่า เจ้าของที่ดินบอกเลิกการเช่า ต้องย้ายไปตั้งที่อื่น โจทก์ไม่มีเงินและกิจการโรงสีขาดทุนโจทก์จึงขายหุ้นของโจทก์ให้จำเลย เมื่อจำเลยรับซื้อแล้วก็ย้ายโรงสีไปตั้งในที่ดินของจำเลยดำเนินการต่อมา
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ได้โอนขายหุ้นให้จำเลยและชำระเงินกันเสร็จแล้วจริง การโอนขายไม่จำต้องทำเป็นหนังสือเพราะหุ้นส่วนไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์ ที่โจทก์อ้างว่าการขายหุ้นมีราคากว่า 500 บาทต้องทำเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 วรรค 3 นั้น มาตรา 456 วรรค 3 ไม่ใช่กรณีการซื้อขายเด็ดขาดโดยชำระเงินกันเสร็จไปแล้ว พิพากษายืน