แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ผู้พิพากษา ที่พิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยก คำร้องขออนุญาตฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงไม่รับฎีกาของจำเลย จำเลยเห็นว่า ฎีกาที่ว่า จำเลยขอให้รอการลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 นั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมายโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 54) ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง เป็น กรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัสซึ่งเป็นบทหนัก ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว จำคุก 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่ การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงลงโทษจำคุก 3 เดือน จำเลยได้ชดใช้ค่ารักษาพยาบาล ให้แก่ผู้เสียหายทั้งสองเพียงบางส่วน ไม่ปรากฏว่าจำเลย ได้รับโทษจำคุกมาก่อนให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขัง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 39,38,45) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 51)
คำสั่ง คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุก 6 เดือน ลดโทษให้ กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือนเปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 23 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน การที่ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจไม่รอการลงโทษให้แก่จำเลยนั้น เป็นข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ตรีที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว