คำสั่งคำร้องที่ 1532/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ไม่รับฎีกาจำเลย
จำเลยที่ 1 เห็นว่า จำเลยที่ 1 ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่มิได้หักจำนวนวันที่จำเลยที่ 1 ถูกคุมขังในระหว่างสอบสวนออกจากระยะเวลาจำคุกตามคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22 ซึ่งเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายและขอให้ศาลฎีการอการลงโทษจำเลยที่ 1 ไว้เพราะมีเหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 1
หมายเหตุ โจทก์รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 24 แผ่นที่ 2)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357 จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 2 ปี จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยคนละ 1 ปี และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนเป็นเงิน6,500 บาท แก่ผู้เสียหาย ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 23ก)
จำเลยที่ 1 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 24 แผ่นที่ 2)

คำสั่ง
ฎีกาของจำเลยข้อที่ขอให้รอการลงโทษเป็นฎีกาดุลพินิจของศาลในการลงโทษซึ่งเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ส่วนข้อที่จำเลยฎีกาขอให้หักวันต้องคุมขังให้จำเลยนั้น ปรากฏว่า ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้หักวันต้องคุมขังให้จำเลย 51 วันแล้ว ฎีกาของจำเลยข้อนี้จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับวินิจฉัย ให้ยกคำร้อง

Share