คำสั่งคำร้องที่ 1501/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 13 ขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกา โดยผู้ขอประกันได้เสนอบัญชีทรัพย์มาพร้อมกับคำร้องแล้ว
หมายเหตุ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 11 ถึงที่ 16มีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 4,5,6,7,11,48,69,73,74,74 ทวิ,74 จัตวา พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 4,6,9,14,31,35 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83,33 พระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้ามพ.ศ. 2505 ฐานทำไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุกคนละ 3 ปี ปรับคนละ 15,000 บาทฐานมีไม้หวงห้ามยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครอง จำคุกคนละ 3 ปีปรับคนละ 15,000 บาท ฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้ จำคุกคนละ 3 ปีปรับคนละ 15,000 บาท ฐานแปรรูปไม้หวงห้าม จำคุกคนละ 3 ปีปรับคนละ 15,000 บาท ฐานมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองจำคุกคนละ 3 ปี ปรับคนละ 15,000 บาท การกระทำของจำเลยที่ 11ถึงที่ 16 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป รวมจำคุกจำเลยที่ 11 ถึงที่ 16 คนละ 15 ปีปรับคนละ 75,000 บาท ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ยกฟ้องจำเลยที่ 11 ถึงที่ 16แต่ให้ขังไว้ในระหว่างฎีกา นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 13 ยื่นคำร้องดังกล่าว

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 13 ชั่วคราวในระหว่างฎีกา ตีราคาค่าประกัน 200,000 บาท ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันแล้วดำเนินการต่อไป

Share