คำสั่งคำร้องที่ 1476/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลล่าง ต้องห้ามฎีกาปัญหาข้อเท็จจริง สำหรับข้อกฎหมายที่จำเลยที่ 1 อ้างในฎีกาก็ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยเพราะไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไป จึงไม่รับฎีกา
จำเลยที่ 1 เห็นว่า การที่ศาลชั้นต้นสั่งว่าข้อกฎหมายที่จำเลยที่ 1 อ้างในฎีกา ไม่ใช่สาระสำคัญแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยนั้นเป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ มิได้ชี้ให้เห็นว่าข้อกฎหมายที่จำเลยที่ 1 ฎีกาข้อใดเป็นข้อกฎหมายที่ไม่ใช่สาระสำคัญ และที่ว่าไม่ใช่สาระสำคัญนั้นมีเหตุผลอย่างไร โดยตามฎีกาข้อ 2.1และข้อ 2.2 ของจำเลยที่ 1 นั้นเป็นฎีกาข้อกฎหมายที่โต้แย้งคัดค้านในการที่ศาลอุทธรณ์ไม่ยกอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ขึ้นวินิจฉัย ซึ่งจำเลยที่ 1 ได้ยกบทบัญญัติของกฎหมายขึ้นแสดงไว้โดยละเอียดและแยกแยะให้เห็นว่าจำเลยที่ 2 ได้ขับรถฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามกฎหมายบทไหนอย่างไร และจำเลยที่ 1 ขับรถด้วยความระมัดระวังอย่างไรจึงเป็นข้อกฎหมายที่เป็นสาระสำคัญ เพราะจะทำให้ผลแห่งคดีเปลี่ยนแปลงไป ส่วนฎีกาข้อ 2.3 เป็นฎีกาที่คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในข้อที่ยกกฎหมายมาปรับแก่คดีไม่ถูกต้อง ไม่ถูกกับรูปเรื่องตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ หากศาลวินิจฉัยคดีโดยนำบทบัญญัติของกฎหมายมาปรับให้ถูกกับเรื่องที่จำเลยที่ 1 ฎีกาไว้ในข้อ 2.3แล้ว ย่อมจะทำให้ผลแห่งคดีเปลี่ยนแปลงไป โปรดมีคำสั่งยกคำสั่งของศาลชั้นต้นให้รับฎีกาของจำเลยที่ 1 ไว้พิจารณาด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 65)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300,390 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43,157 แต่เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทจึงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 ซึ่งเป็นบทหนักเพียงบทเดียว วางโทษจำคุก 4 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกรอไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 มีกำหนด 2 ปี จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43,157 ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390 ซึ่งเป็นบทหนักเพียงบทเดียว ให้ปรับ 500 บาท ฯลฯ
จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 63)
จำเลยที่ 1 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 65)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 1 ข้อ 2.1 และข้อ2.2 เป็นปัญหาข้อกฎหมายซึ่งอาจทำให้จำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิดดังโจทก์ฟ้อง จึงให้รับฎีกาข้อดังกล่าวไว้ดำเนินการต่อไป

Share