คำสั่งคำร้องที่ 1469/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ทั้งสี่ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์ ทั้ง สี่ แม้โจทก์ทั้งสี่จะอ้างว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมาย แต่ก็ล้วน เป็น ปัญหาข้อเท็จจริง คดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทกันชั้นฎีกา ไม่เกินสองแสนบาท ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่ง มาตรา 248 จึงไม่รับฎีกา
โจทก์ทั้งสี่เห็นว่า ฎีกาข้อ 4 ที่ว่า เอกสารสัญญาซื้อขายหมาย ล.5 ลายพิมพ์นิ้วมือของนายดี ไชยสุวรรณ ไม่มีลายมือชื่อพยานรับรองสองคนตามกฎหมายทั้งไม่ได้ปิดอากรแสตมป์แต่อย่างใดจะนำมาอ้างเป็นพยานหลักฐานไม่ได้ และฎีกาในข้อ 5 ที่ว่าการซื้อขายที่ดินพิพาทซึ่งไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ย่อมตกเป็นโมฆะการซื้อขายจึงไม่สมบูรณ์ ล้วนเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนและเป็นสาระแก่คดีทั้งสิ้น โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ทั้งสี่ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ทนายจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 96)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยเป็นเจ้าของและเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่พิพาทตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เลขที่ 1159เล่ม 19 หน้า 32 หมู่ที่ 1 ตำบลสิอำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษห้ามมิให้โจทก์ทั้งสี่เข้าไปเกี่ยวข้องในที่พิพาทอีกต่อไปให้ยกฟ้องโจทก์ทั้งสี่
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสี่ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 91)
โจทก์ทั้งสี่จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 94)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ฎีกาข้อ 4 ที่ว่า ลายพิมพ์นิ้วมือของนายดี ไชยสุวรรณ ในสัญญาซื้อขายเอกสารหมาย ล.5 ไม่มีลายมือชื่อพยานรับรองสองคนตามกฎหมาย ทั้งไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ จะนำมาอ้างเป็นพยานหลักฐานไม่ได้ และฎีกาข้อ 5 ที่ว่า การซื้อขายที่ดินพิพาทไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ย่อมตกเป็นโมฆะ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย แม้สัญญาซื้อขายเป็นโมฆะ แต่จำเลยต่อสู้ว่าได้ครอบครองที่ดินพิพาทจนได้สิทธิแล้วไม่ใช่ได้สิทธิในที่ดินพิพาทโดยอาศัยสัญญาซื้อขาย ข้อกฎหมายดังกล่าวจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคแรกที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ยกคำร้องค่าคำร้องเป็นพับ

Share