คำสั่งคำร้องที่ 1460/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า เนื่องจากโจทก์ได้ถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา ตามภาพถ่ายใบมรณบัตรท้ายคำร้อง จำเลยเป็นบุตรของโจทก์ตามภาพถ่ายสำเนาทะเบียนบ้านท้ายคำร้อง จำเลยในฐานะทายาทและเป็นผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดกของโจทก์ จึงมีความประสงค์ขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะ โปรดอนุญาต
หมายเหตุ ทนายโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยโอนที่ดินโฉนดเลขที่ 889เนื้อที่ดิน 6 ไร่ 2 งาน 95.50 วา ที่ดินโฉนดเลขที่ 1296เนื้อที่ดิน 2 งาน 56 วา และที่ดินโฉนดเลขที่ 1301 เนื้อที่ดิน3 งาน 20 วา เฉพาะส่วนของจำเลยซึ่งได้รับการยกให้จากโจทก์รวม 3 แปลง ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลมหาพราหมณ์อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้แก่โจทก์ ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถ้าจำเลยไม่ไปก็ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกาคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
จำเลยยื่นคำร้องดังกล่าว ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วจึงให้ส่งคำร้องไปยังศาลฎีกาเพื่อสั่ง (ตามรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่28 มิถุนายน 2533)

คำสั่ง
แม้จำเลยเป็นทายาทและผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดกของโจทก์แต่จำเลยเป็นผู้มีส่วนได้เสียในทางปฏิปักษ์กับโจทก์ในผลแห่งคดีถ้าจำเลยได้เข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์จะกระทบกระเทือนถึงส่วนได้เสียของทายาทอื่นของโจทก์ได้ จึงไม่อนุญาตให้จำเลยเข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ผู้มรณะ ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ

Share