แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสามขอให้ศาลสั่งปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกาโดยผู้ขอประกันได้เสนอบัญชีทรัพย์มาพร้อมคำร้องแล้ว
หมายเหตุ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14,31,35 ฯลฯ พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 4,7,11,48,72,74,74 ทวิ ฯลฯประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,91 ฯลฯ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน จึงให้ลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป โดยให้ลงโทษฐานทำไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ มาตรา 73ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด กระทงหนึ่ง จำคุกคนละ 2 ปี ฐานแปรรูปไม้ตามมาตรา 73 อีกกระทงหนึ่งจำคุกคนละ 2 ปี รวมโทษจำคุกคนละ 4 ปีจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกคนละ 2 ปี ริบของกลาง
จำเลยทั้งสามยื่นคำร้องดังกล่าว โดยแถลงในคำร้องประกอบว่าจะยื่นฎีกาต่อไป (อันดับ 43,42)
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยจำเลยทั้งสามชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์โดยตีราคาประกันคนละ 100,000 บาท (อันดับ 19)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เป็นคดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จำเลยทั้งสามยังมิได้ยื่นฎีกา จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในชั้นนี้ให้ยกคำร้อง