แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา มีเหตุผลเพียงพอที่จะให้ศาลฎีกามีคำพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้ โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (สำนวนตอนที่ 2 อันดับ 269) คดีสืบเนื่องมาจากศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกัน ชำระเงินจำนวน 2,705,659.24 บาท พร้อมดอกเบี้ย อัตราร้อยละ 15 ต่อปี ในต้นเงิน 2,691,281.17 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากจำเลยทั้งสอง ไม่ชำระหรือชำระไม่ครบถ้วนให้ยึดทรัพย์สินจำนองและ ทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองออกขายทอดตลาดนำเงินสุทธิ ชำระหนี้แก่โจทก์พร้อมด้วยอุปกรณ์จนครบถ้วน และให้จำเลยทั้งสอง ร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ ต่อมาโจทก์ ขอหมายบังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดิน โฉนดเลขที่ 515 ตำบลสีคิ้ว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมาพร้อมสิ่งปลูกสร้างตึกแถวเลขที่ 138/13-14 บนที่ดินดังกล่าว ซึ่งเป็นทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ที่จำนองไว้กับโจทก์ เพื่อขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษา จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องว่า ทรัพย์สินที่โจทก์ นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้นั้น จำเลยทั้งสองใช้เพื่อ ประกอบการพาณิชยกรรมตั้งเป็นร้านค้าส่วนหนึ่งและอีกส่วนหนึ่ง ตั้งเป็นสมาคมชาวไร่สีคิ้ว จำเลยทั้งสองมีรายได้ประจำปีจากการประกอบกิจการดังกล่าวเพียงพอที่จะชำระหนี้ตาม คำพิพากษาได้ ขอให้มีคำสั่งตั้งผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์ หรือการประกอบกิจการของจำเลยทั้งสองแทนการสั่งขายทอดตลาด ทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 307 โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า จำเลยทั้งสองประกอบการ ค้าขายสินค้าเบ็ดเตล็ดและสมาคมชาวไร่สีคิ้วเป็นกิจการประเภทบิลเลียด สนุกเกอร์ มีรายได้ประจำปีไม่พอชำระหนี้โจทก์นับแต่ศาลฎีกามีคำพิพากษา จำเลยทั้งสองไม่เคยชำระหนี้ หรือติดต่อขอชำระหนี้ให้โจทก์เลย ยอดหนี้คิดถึงวันไต่สวน เป็นเงิน 5,878,366.27 บาท จำเลยทั้งสองมีเจตนาประวิงคดี ทำให้โจทก์ได้รับชำระหนี้ล่าช้า ขอให้ยกคำร้อง วันที่ 18 กรกฎาคม 2537 ซึ่งเป็นวันนัดไต่สวนคำร้องจำเลยทั้งสองรับว่าเป็นหนี้โจทก์ในยอดหนี้ จำนวน 5,878,366.27 บาท จริง และยังไม่ได้ชำระ ศาลชั้นต้นสั่งงดการไต่สวน แล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน (อันดับ 256) จำเลยทั้งสองฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 262,261) ชั้นอุทธรณ์ จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับศาลอุทธรณ์ภาค 1 ฟังว่าคำร้องของ จำเลยพอแปลได้ว่า เป็นการขอให้คุ้มครองประโยชน์ของจำเลยในระหว่างพิจารณาตามมาตรา 264 จึงมีคำสั่งให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยไว้ในระหว่างอุทธรณ์ (อันดับ 242)
คำสั่ง ตามคำร้องพอแปลได้ว่า จำเลยขอคุ้มครองประโยชน์ ของจำเลยในระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 264 พิเคราะห์แล้ว เห็นสมควรให้งด การขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทระหว่างฎีกา