แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีก่อนโจทก์ฟ้องขอให้แสดงกรรมสิทธิที่ดินอ้างว่าบิดายกให้ก่อนตาย คดีหลังโจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกบิดาในทรัพย์รายเดียวกับคดีก่อนได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ย่อยาว
นางกิมฮวยโจทก์สำนวนหนึ่งฟ้องว่าที่ดินกับเรือนอันเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์กับสามี (บิดา น.ส.กิมจือ และนางถาวร) เมื่อสามีตายแล้วตกเป็นของโจทก์จำเลยทั้งสองอาศัยอยู่ไม่ยอมออก ขอให้ขับไล่
จำเลยทั้งสองให้การว่าที่พิพาทเป็นมรดกบิดาจำเลย ๆ ครอบครอง โจทก์ไม่ได้ครอบครองจนเกินอายุความ
อีกสำนวนหนึ่งอัยการโจทก์ฟ้องนางกิมฮวยเป็นจำเลยแทน น.ส.กิมจือและนางถาวร ขอแบ่งที่สวนและนามรดก
นางกิมฮวยให้การว่าทรัพย์พิพาทคือที่สวนและนากับสวนจากเป็นสินสมรสระหว่างสามีกับตน ส่วนทรัพย์หมายเลข ๓ เป็นสินเดิมของสามี เมื่อสามีตายแล้วจำเลยได้แบ่งทองคำหนัก ๓๐ บาทให้แก่นางกิมจือ นางถาวรกับเครื่องใช้สรอย+หนึ่งพันบาท นางกิมจือ นางถาวรยอมไม่เกี่ยวข้องกับที่ดินบ้านเรือนรายพิพาท และว่าโจทก์ฟ้องซ้ำ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่นางกิมฮวยขอให้ขับไล่นั้นฟังว่าเป็นที่มรดกครอบครองมาด้วยกัน ขับไล่ไม่ได้ ให้ยกฟ้อง ส่วนสำนวนอัยการนั้นให้แบ่งทรัพย์พิพาทให้นางกิมฮวย ๑ ใน ๖ ก่อน เหลือเท่าใดให้แบ่งให้ น.ส.กิมจือ , นางถาวร และนางกิมฮวยคนละส่วน
โจทก์ จำเลยทั้งสองสำนวนอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์คงพิพากษาแก้เฉพาะเรื่องการหักค่าทนายจากกองมรดกเท่านั้น
นางกิมฮวยฎีกา
ศาลฎีกายกฎีกานางกิมฮวยขึ้นวินิจฉัย ๒ ข้อ ข้อแรกฟังข้อเท็จจริงว่า น.ส.กิมจือ นางถาวรไม่ได้แสดงเจตนาละทิ้งมรดก และไม่เชื่อว่า น.ส.กิมจือ นางถาวรตกลงรับส่วนแบ่งไปแล้ว ส่วนข้อ ก.ม.ที่ว่าอัยการฟ้องซ้ำนั้น ปรากฎว่าคดีก่อนเป็นเรื่องฟ้องขอให้แสดงกรรมสิทธิโดยผู้ฟ้องอ้างว่าบิดายกสวนและนาให้ก่อนตาย แต่คดีนี้เป็นเรื่องฟ้องขอแบ่งมรดกบิดา จึงไม่ใช่ฟ้องซ้ำ พิพากษายืน