แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 จึงไม่รับฎีกาของจำเลย
จำเลยเห็นว่า จำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวหรือไม่ และเป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุหรือไม่ แม้จำเลยจะไม่ได้ให้การต่อสู้ในเรื่องป้องกันตัวไว้แต่ปัญหาดังกล่าวนี้เป็นปัญหาสิทธิของมนุษยชน ซึ่งทุกคนต่างมีสิทธิได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย และยังเกี่ยวพันถึงอิสระภาพของจำเลยด้วย ดังนั้น เมื่อศาลล่างทั้งสองยังไม่ได้หยิบยกปัญหานี้ขึ้นวินิจฉัย จึงเห็นควรที่จะได้รับการพิจารณาจากศาลฎีกาอีกครั้งหนึ่งโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 54)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297 จำคุก 3 ปี
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 52)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 54)
คำสั่ง
คดีนี้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยใช้อาวุธปืนคมของจำเลยแทงผู้เสียหายการที่จำเลยฎีกาว่า ผู้เสียหายชักมีดแทงจำเลยจำเลยเข้าแย่งมีดจากผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายบาดเจ็บจึงเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริง เมื่อศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกไม่เกิน5 ปี และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนเช่นนี้ จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของจำเลยนั้นชอบแล้ว ยกคำร้อง