แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า เป็นคดีฟ้องขับไล่บุคคลออกจากอสังหาริมทรัพย์อันอาจให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท ต้องห้ามฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสอง ฎีกาของโจทก์เป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาทั้งสิ้นจึงไม่รับฎีกาของโจทก์
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์ข้อ 2.1 การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับสำเนาคำร้องหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินค่าเช่าเดือนมิถุนายน2530 ถึงเดือนมกราคม 2532 รวม 4,000 บาท ค่าภาษีโรงเรือนปี 2531 และ 2532 รวม 4,860 บาท เป็นเงินทั้งสิ้น 8,860 บาทแก่โจทก์ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 63)
โจทก์ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 64)
คำสั่ง
ประเด็นพิพาทคดีนี้มีว่า จำเลยผิดสัญญาหรือไม่ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามกันว่า จำเลยมิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาโจทก์ฎีกาโต้เถียงว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา จึงเป็นการฎีกาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 วรรคสอง ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้วให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ