แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า คดีนี้ผู้คัดค้านยื่นฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับไว้แล้ว คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา เนื่องจากผู้คัดค้านไม่สามารถเข้าไปทำนาในที่พิพาทได้ เพราะผู้ร้องเข้าไปขัดขวางโดยอ้างว่าผู้ร้องชนะคดีในชั้นอุทธรณ์ เพื่อยุติการขัดแย้งและโต้เถียงกัน ผู้คัดค้านเห็นควรจะให้มีการประมูลการเข้าทำนาในที่พิพาทระหว่างผู้ร้องและผู้คัดค้าน หากฝ่ายใดให้ราคาสูงสุดเป็นฝ่ายเข้าทำนาในที่พิพาท เงินค่าเข้าทำนาแต่ละปีให้ตกเป็นรายได้ของฝ่ายชนะคดีเมื่อคดีถึงที่สุด จึงขอได้เรียกตัวผู้ร้องมาศาลเพื่อทำการประมูลดังกล่าว โปรดอนุญาต
หมายเหตุ ผู้ร้องแถลงคัดค้าน (อันดับ 70)
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องได้ซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 9559ตำบลโพนทัน อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร จากนางสอน ผิวอ่อนในราคา 6,250 บาท นางสอนได้มอบโฉนดและส่งมอบที่ดินให้ผู้ร้องเข้าครอบครองโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตลอดมาเกินกว่า10 ปีแล้ว ขอศาลมีคำสั่งแสดงว่าผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโฉนดดังกล่าว และมีคำสั่งไปยังเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดยโสธรให้ทำการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์เดิมจากนางสอนมาเป็นชื่อผู้ร้อง ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้าน
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ผู้ร้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 9559 เนื้อที่ 12 ไร่ 1 งาน 3 ตารางวา ตำบลโพนทันอำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร โดยการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382
ผู้คัดค้านยื่นฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ(อันดับ 60,59)
ผู้คัดค้านจึงยื่นคำร้องนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา อำนาจในการพิจารณาสั่งเรื่อง ขอคุ้มครองชั่วคราวตามคำร้องของผู้คัดค้านนั้น เป็นอำนาจของศาลฎีกา จึงให้ส่งคำร้องพร้อมสำนวนดังกล่าวมาศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่งโดยด่วน (อันดับ 66,73)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ผู้คัดค้านยอมรับว่าผู้ร้องเป็นฝ่ายครอบครองและทำนาในที่ดินพิพาทเพียงแต่ต่อสู้ว่าผู้ร้องเช่าจากผู้คัดค้านผู้คัดค้านมิได้ฟ้องแย้งเรียกค่าเช่าหรือค่าเสียหายจากผู้ร้องจึงไม่มีเหตุที่จะต้องให้ประมูลการเข้าทำนาในที่ดินพิพาทระหว่างผู้ร้องกับผู้คัดค้าน ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
