คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2049/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การพนันสลากกินรวบเป็นสิ่งที่มอมเมาประชาชน และเป็นอบายมุขที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เศรษฐกิจของชาติบ้านเมืองสมควรแก่การกำราบปราบปรามมิให้มีการเล่นอีกต่อไป เจ้าพนักงานจับจำเลยได้ พร้อมด้วย สมุด จดหมายเลขสลากกินรวบ 2 เล่ม แต่ ละเล่มจดรายการเล่นการพนันดังกล่าวหลายรายการ ถือ ไม่ ได้ ว่าจำเลยเป็นผู้เล่นรายย่อย จึงยังไม่สมควรที่จะรอการลงโทษจำคุกจำเลย เมื่อศาลไม่ได้ลงโทษปรับจำเลย จึงไม่อาจสั่งให้จำเลยจ่ายสินบนนำจับได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478มาตรา 4, 5, 6, 10, 12, 15 ริบของกลาง และจ่ายสินบนนำจับตามกฎหมาย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5, 6, 10, 12, 15 ลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ5,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน ปรับ 2,500 บาทโทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด 2 ปี ไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ให้จำเลยจ่ายสินบนนำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับ ริบของกลาง
โจทก์อุทธรณ์ขอไม่ให้รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งแล้วคงจำคุก 2 เดือน โดยไม่ปรับและไม่รอการลงโทษ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาโดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยเพียงประการเดียวว่า กรณีมีเหตุสมควรรอการลงโทษจำคุกจำเลยหรือไม่พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การพนันสลากกินรวบเป็นสิ่งที่มอมเมาประชาชนและเป็นอบายมุขที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เศรษฐกิจของชาติบ้านเมืองสมควรแก่การกำราบปราบปรามมิให้มีการเล่นอีกต่อไป ปรากฏว่าเจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยสมุดจดหมายเลขสลากกินรวบ 2 เล่มแต่ละเล่นจดรายการเล่นการพนันดังกล่าวหลายรายการด้วยกัน เป็นของกลาง จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้เล่นรายย่อยดังที่จำเลยฎีกาส่วนที่จำเลยอ้างว่าจำเลยไม่เคยต้องโทษมาก่อน และมีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรซึ่งยังเล็กอยู่ถึง 2 คน หากต้องโทษจำคุกแล้วครอบครัวของจำเลยจะได้รับความลำบากนั้น ก็ยังไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่ศาลฎีกาจะรอการลงโทษจำคุกจำเลย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น แต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โดยคงให้จำเลยจ่ายเงินสินบนนำจับนั้น เห็นว่าเมื่อศาลไม่ได้ลงโทษปรับจำเลยแล้ว จึงไม่อาจสั่งให้จำเลยจ่ายสินบนนำจับได้ ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอที่ให้จำเลยจ่ายสินบนแก่ผู้นำจับเสียด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share