แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ 177,000 บาท ทุนทรัพย์ที่พิพาทตามฎีกาของจำเลยในชั้นฎีกาจึงไม่เกิน 200,000 บาท ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง จำเลยจะคำนวณค่าเสียหายในอนาคตตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และดอกเบี้ยรวมเข้ากับทุนทรัพย์เพื่อให้เกินสองแสนบาทหาได้ไม่
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาห้ามไม่ให้จำเลยเดินเรือประจำทางรับส่งคนโดยสารตามลำน้ำเจ้าพระยาระหว่างท่าเรือปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ถึงท่าช้างวังหลวง กรุงเทพมหานคร ทับเส้นทางการเดินเรือของโจทก์ ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ 177,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับจากวันฟ้อง (7 ธันวาคม2533) จนกว่าจะชำระเสร็จ และใช้ค่าเสียอีกวันละ 3,000 บาทนับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะเลิกเดินเรือทับเส้นทางโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ทุนทรัพย์ชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท รับเป็นฎีกาเฉพาะข้อ 2 ทั้งหมด และข้อ 3 ทั้งหมดซึ่งเป็นข้อกฎหมาย ส่วนข้อ 4 ข้อ 5 และข้อ 6 เป็นข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกา ไม่รับ คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาส่วนที่เกิน
จำเลยจึงยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกาว่า คดีนี้ทุนทรัพย์ตามฟ้องของโจทก์ 260,000 บาท และศาลชั้นต้นได้พิจารณาพิพากษาให้จำเลยชดใช้เงินค่าเสียหายจำนวน 177,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยจำนวนร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี กับค่าเสียหายอีกวันละ 3,000 บาทแก่โจทก์ นับตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไป(7 ธันวาคม 2533) จนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จและเลิกเดินเรือทับเส้นทางของโจทก์ เมื่อรวมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อไปและค่าเสียหายอีกวันละ 3,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนถึงปัจจุบันแล้วทุนทรัพย์ในชั้นฎีกาของจำเลยย่อมเกินสองแสนบาทอย่างแน่นอนโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาข้อ 4 ข้อ 5 และข้อ 6 ของจำเลยไว้พิจารณาต่อไปด้วย
ศาลฎีกามีคำสั่งว่า “พิเคราะห์แล้ว คดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย 260,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ 177,000 บาท ทุนทรัพย์ที่พิพาทตามฎีกาของจำเลยในชั้นฎีกาจึงมีจำนวนไม่เกินสองแสนบาทต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 วรรคหนึ่ง ฎีกาของจำเลยข้อ 4 ข้อ 5 และข้อ 6เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว จำเลยจะคำนวณค่าเสียหายในอนาคตตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และดอกเบี้ยรวมเข้ากับทุนทรัพย์เพื่อให้เกินสองแสนบาทหาชอบที่จะกระทำได้ไม่ ให้ยกคำร้อง”