แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งสอง โจทก์จึงต้องห้ามฎีกา ตามมาตรา 220 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ไม่รับฎีกาของโจทก์ที่ 1
โจทก์ที่ 1 เห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 ห้ามฎีกาเฉพาะปัญหาข้อเท็จจริงเท่านั้น แต่ปัญหาข้อกฎหมาย ไม่ห้าม และฎีกาของโจทก์ที่ 1 ก็เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่ง ให้รับฎีกาของโจทก์ที่ 1 ด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าจำเลยทั้งสองได้รับสำเนาคำร้อง แล้วหรือไม่
โจทก์ที่ 1 ที่ 2 ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ที่ 2ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175,83
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว มีคำสั่งให้ประทับฟ้องเฉพาะ โจทก์ที่ 1 ยกฟ้องโจทก์ที่ 2
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยในประเด็นแห่งคดีที่ยังมิได้วินิจฉัยแล้วพิพากษาใหม่ตาม รูปคดี
ศาลชั้นต้นพิจารณาใหม่แล้วพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน แต่ให้แก้ไขจำนวนเงินตอนที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยจาก 500,000 บาท เป็น 50,000 บาท และจาก 200,000 บาท เป็น 20,000 บาท
โจทก์ที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 62)
โจทก์ที่ 1 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 63)
คำสั่ง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ที่ได้แก้ไขใหม่ ห้ามฎีกาทั้งปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย โจทก์ฎีกาไม่ได้ทั้ง ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ยกคำร้อง