แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา แต่เนื่องจากในระหว่างอุทธรณ์จำเลยได้วางเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำนวน 33,931.14 บาทเพื่อมิให้ต้องถูกบังคับคดี ซึ่งโจทก์ได้รับไปจากศาลแล้ว แต่โดยที่โจทก์เป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ไม่แน่นอนและมีภูมิลำเนาอยู่นอกเขตอำนาจศาลชั้นต้น ถ้าหากศาลฎีกามีคำพิพากษาให้จำเลยชนะคดี ก็จะเป็นการยากลำบากและเสียหายแก่จำเลยเป็นอย่างมากในการที่จะติดตามเงินคืนจากโจทก์ รวมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมต่าง ๆ จึงขอศาลฎีกาได้โปรดมีคำสั่งให้โจทก์นำเงินที่รับไปจากศาลชั้นต้น จำนวน33,931.14 บาท หรือหลักประกันมาวางต่อศาลเพื่อเป็นการคุ้มครองประโยชน์ของจำเลยก่อนคดีถึงที่สุดด้วย
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 64)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยชำระเงิน 28,600 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 19มิถุนายน 2527 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยฎีกาโดยผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองให้ฎีกาได้ และยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 52,51,57)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ยังไม่มีเหตุสมควรอนุญาตให้คุ้มครองประโยชน์ ของจำเลยในระหว่างฎีกา ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ