คำสั่งคำร้องที่ 1244/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา คดีมีทางชนะ หากศาลให้จำเลยถอนเงินที่นำมาวางไว้ต่อศาลในการขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์รวมเป็นเงิน 176,000 บาท ไปจากศาลในระหว่างนี้ อาจทำให้โจทก์เสียหายได้ โปรดมีคำสั่งอายัดเงินจำนวนดังกล่าวไว้ก่อน
หมายเหตุ จำเลยยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกไปจากตึกแถวของโจทก์ เลขที่ 490/19 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไทที่พิพาท กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เดือนละ 4,000 บาทนับแต่วันฟ้อง (4 กรกฎาคม 2528) ไปจนกว่าจำเลยจะส่งมอบห้องพิพาทคืนโจทก์ได้
ระหว่างอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ทุเลาการบังคับ โดยจำเลยได้นำเงินมาวางตามคำสั่งศาลไว้ต่อศาลชั้นต้นรวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 176,000 บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาสืบตัวจำเลยแล้วมีคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดีโจทก์ฎีกา และยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 115,120 แผ่นที่ 3)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า การที่โจทก์ขอให้อายัดเงินที่จำเลยนำมาวางศาล ซึ่งจำเลยมีสิทธิจะรับคืนไป มีผลเท่ากับบังคับให้จำเลยนำเงินมาวางศาลเพื่อเอาไว้ชำระหนี้ให้โจทก์ แต่การร้องขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 นั้น จะต้องเป็นการคุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องขอ เพื่อให้ทรัพย์สินสิทธิหรือประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งที่พิพาทกัน ได้รับความคุ้มครองไว้จนกว่าศาลจะได้มีคำพิพากษา กรณีที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินซึ่งเป็นค่าเสียหายมาด้วยเช่นในคดีนี้ มิใช่พิพาทกันด้วยทรัพย์สินหรือสิทธิหรือประโยชน์อันโจทก์จะร้องขอเพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามบทบัญญัติดังกล่าว ดังนั้นโจทก์จะขอให้จำเลยนำเงินมาวางศาลตามมาตรานี้ไม่ได้ จึงเห็นสมควรไม่อายัดเงินของจำเลยตามที่โจทก์ขอ ให้ยกคำร้อง

Share