คำสั่งคำร้องที่ 1242/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้เกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์แต่ทุนทรัพย์ไม่เกิน 50,000 บาทและอาจให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละ 5,000 บาท แต่ทรัพย์พิพาทเป็นที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ซึ่งมีแต่สิทธิครอบครองเท่านั้นจำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ จึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสองไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า คดีนี้มีข้อพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิในที่ดินอันเป็นอสังหาริมทรัพย์จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและการที่จำเลยอ้างสิทธิเหนือที่พิพาทโดยการครอบครองเกินกว่าปีหนึ่ง โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกคืนและเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องนี้เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วโดยวิธีปิดหมาย(อันดับ 91 แผ่นที่ 2)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกจากที่ดินพิพาทของโจทก์พร้อมให้จำเลยชำระค่าเสียหายเป็นเงิน 3,400 บาทแก่โจทก์ กับให้จำเลยชำระค่าเสียหายโจทก์เดือนละ 100 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะออกจากที่ดินโจทก์ ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ 1,500 บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้นแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ 1,200 บาท นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ไม่แก้อุทธรณ์จึงไม่กำหนดค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ให้
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 80)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 84)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ที่พิพาทเป็นที่ดินซึ่งเจ้าของมีได้เพียงสิทธิครอบครอง การที่จำเลยให้การว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยด้วยการแบ่งการครอบครองครบหนึ่งปี จึงเป็นกรณีที่จำเลยกล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์แล้ว ซึ่งเป็นบทยกเว้นไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสอง ให้รับฎีกาจำเลยไว้ดำเนินการต่อไป

Share