แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยยื่นฎีกา โจทก์ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใดเพราะจำเลยมีหลักทรัพย์ไว้กับโจทก์มีราคาประเมินถึงสองล้านกว่าบาทโปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 78 แผ่นที่ 7)จำเลยขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 304,674.15 บาทให้โจทก์พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละสิบห้าต่อปี ในต้นเงิน268,136.44 บาท นับจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ และจำนวน279,598.64 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละสิบห้าต่อปีในต้นเงิน 200,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จหากจำเลยไม่ใช้ให้นำทรัพย์สินจำนองออกขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้โจทก์ ถ้าได้เงินไม่พอให้จำเลยรับผิดชดใช้หนี้ส่วนที่ยังขาดอยู่ให้โจทก์จนครบถ้วน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยได้รับอนุญาตให้ฎีกาอย่างคนอนาถาพร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 72)
ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์แต่ไม่ปรากฏหลักฐานในสำนวนว่าจำเลยได้นำหลักทรัพย์มาวางศาลเพิ่มตามคำสั่งของศาลชั้นต้น (อันดับ 58,62)
คำสั่ง
ถ้าศาลชั้นต้นเห็นว่าหลักทรัพย์ที่จำนองเป็นหลักประกันเพียงพอกับจำนวนหนี้ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีของต้นเงินตามคำพิพากษาดังกล่าว นับจากวันฟ้องมีกำหนด 5 ปี ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับระหว่างฎีกาหากเห็นว่าไม่เพียงพอก็ให้หาหลักประกันมาเพิ่มให้เพียงพอ ภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นเห็นสมควร มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง