คำสั่งคำร้องที่ 1231/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีนี้มี ทุนทรัพย์ไม่เกิน 200,000 บาท จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ฎีกาของโจทก์ในข้อ ก. และ ข. เป็นการฎีกาโต้แย้ง ดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามฎีกาไม่รับฎีกา
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์ข้อ ก. ที่ว่าการที่นางสายทอง โยธาวงศ์ ยกที่พิพาทให้โจทก์โดยการส่งมอบโจทก์จึงมีสิทธิและเป็นเจ้าของโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว และข้อ ข. ที่ว่านางสายทองได้พูดสั่งเสียก่อนถึงแก่กรรมว่าที่นาพิพาทยกให้โจทก์แล้วอันเป็นคำกล่าวที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประโยชน์ของตน ซึ่งศาลจะต้องรับฟัง แต่ศาลมิได้หยิบยกขึ้นวินิจฉัยนั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมายทั้งสิ้น โปรดมีคำสั่ง รับฎีกาของโจทก์ด้วย
หมายเหตุ ทนายจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 116)
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์พิพาท ส่วนของนางสายทอง โยธาวงศ์ เป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง
ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น ผู้ร้องสอดทั้งสองยื่นคำร้องขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดินพิพาทในส่วนของนางสายทองเป็นของผู้ร้องสอดทั้งสอง ให้โจทก์ไปจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทให้ผู้ร้องสอดทั้งสอง ฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์และยกคำร้องสอด ของผู้ร้องสอดทั้งสอง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 111)
โจทก์ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 114)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกา ไม่เกินสองแสนบาท ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนตามคำพิพากษา ศาลชั้นต้น โดยฟังข้อเท็จจริงว่านางสายทอง โยธาวงศ์ มิได้ยกที่พิพาทให้โจทก์ โจทก์ฎีกาว่านางสายทองยกที่พิพาทให้โจทก์โดยการส่งมอบและคำพูดของนางสายทองที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประโยชน์ของตนศาลมิได้หยิบยกขึ้นวินิจฉัยนั้นเป็นการ เถียงข้อเท็จจริงและดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาล จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง อนึ่งการอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาต้องเสียค่าคำร้อง 40 บาท โจทก์เสียค่าขึ้นศาลมาด้วย 200 บาท จึงให้คืนค่าธรรมเนียมส่วนที่เกินมาแก่โจทก์

Share