แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218ไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยข้อ 2.1,2.2 และ 2.3เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 125)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีโจทก์มีมูลจึงมีคำสั่งให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3จำคุก 1 เดือน ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 117)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 120)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 1 เดือน โดยฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าจำเลยออกเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้ และนายจือนำเช็คไปแลกเงินสดจากโจทก์ ที่จำเลยฎีกาข้อ 2.1 ว่า พยานจำเลยฟังได้ว่าจำเลยออกเช็คพิพาทให้นายสุรชัยเป็นประกันหนี้อันเกิดจากการพนัน ข้อ 2.2 ว่า พยานจำเลยฟังได้ว่าจำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงิน 10,000 บาท ได้รับเงินไปเพียง 9,700 บาท อีก 300 บาทเป็นดอกเบี้ยสูงเกินอัตราตามกฎหมาย เป็นเรื่องทางแพ่ง ไม่ใช่ทางอาญาและข้อ 2.3 ว่า โจทก์นำสืบฟังไม่ได้ว่า โจทก์ได้เช็คพิพาทมาโดยสุจริต นั้น ล้วนเป็นปัญหาการรับฟังพยานหลักฐาน เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาจำเลยชอบแล้ว ยกคำร้อง