แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามมาตรา 220 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา จึงไม่รับฎีกาของโจทก์โจทก์ทั้งสองเห็นว่า ฎีกาของโจทก์ทั้งสองเป็นปัญหาข้อกฎหมายสำคัญอันควรที่ศาลฎีกาจะได้วินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐานโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ทั้งสองไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (สำนวนธุรการอันดับ 27 แผ่นที่ 2)
โจทก์ทั้งสองฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137,172,174,90
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 34)
โจทก์ทั้งสองจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 35)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องโจทก์ทั้งสอง โดยฟังข้อเท็จจริงว่าการกระทำของจำเลยไม่มีมูลความผิดตามฟ้อง ดังนั้น ข้อที่โจทก์ทั้งสองฎีกาว่าการกระทำของจำเลยมีมูลความผิดตามฟ้องนั้น จึงเป็นฎีกาโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาโจทก์ทั้งสอง ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง