คำสั่งคำร้องที่ 1212/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าพิเคราะห์แล้วฎีกาของจำเลยที่ 2 เป็นฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ ซึ่งเป็นการฎีกาปัญหา ข้อเท็จจริง และคดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกาไม่เกิน200,000 บาท ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 แก้ไขใหม่จึงมีคำสั่งไม่รับฎีกา
จำเลยที่ 2 เห็นว่า ฎีกาที่ว่าการที่ศาลล่างยึดถือเอาหนังสือรับสารภาพผิดว่าทำละเมิดมาเป็นข้อวินิจฉัยความผิดของจำเลยที่ 2 ซึ่งจำเลยที่ 2 และโจทก์ต่างรับกันแล้วว่าที่รับสารภาพเช่นนั้นเพียงเพื่อเอารถยนต์ทั้งห้าคันออกจากสถานีตำรวจเท่านั้นและตกลงกันด้วยว่าความรับผิดทางแพ่งให้ไปว่ากล่าวกันเอง เป็นปัญหาข้อกฎหมายและความผิดมิได้เกิดจากจำเลยที่ 2 แต่เกิดจากคนขับรถของโจทก์ที่ 2 โปรดมี คำสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 2 ไว้ด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ทั้งสามได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน ให้จำเลยที่ 2 ชำระค่าเสียหายให้แก่โจทก์ที่ 1 เป็นเงิน 30,000 บาท ให้แก่โจทก์ที่ 2เป็นเงิน 24,000 บาท และให้แก่โจทก์ที่ 3 เป็นเงิน 99,500 บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากต้นเงินจำนวนดังกล่าวตามลำดับ นับแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2533 ซึ่งเป็น วันทำละเมิดเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสาม และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1
จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว(อันดับ 85)
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องนี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ให้จำเลยที่ 2 นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมและนำเงินมาชำระตาม คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 หรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายใน กำหนด 15 วัน แต่จำเลยที่ 2 มิได้ดำเนินการภายในกำหนดระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ศาลชั้นต้นจึงสั่งให้ส่งคำร้องนี้มาเพื่อพิจารณา (อันดับ 87 แผ่นที่ 1 และที่ 3)

คำสั่ง
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา โดยไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันมาวางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบด้วยมาตรา 247 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ

Share